จากคุณมานามิ อิโตะ Assistant Manager Tourist Promotion Dept. ได้บอกกับเราเกี่ยวกับการเที่ยวโตเกียวว่า ในข้อมูลของการท่องเที่ยวโตเกียวของไทย ได้แบ่งเขตการท่องเที่ยวในโตเกียวไว้ 10 เขตด้วยกัน มีตีมในการท่องเที่ยวสองตีมได้แก่ Elegant และ Vibrant
-ย่านรปปงหงิ เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร ร้านค้าชื่อดัง งานศิลปะ และตึกที่สวยงามมากมาย ทำให้รปปงหงิเป็นจุดท่องเที่ยวหนึ่งในโตเกียวที่ได้รับความนิยม
-ชิบุย่า,ฮาราจูกุ,โอโมเตะซันโดะ เป็นแหล่งแฟชั้นที่ทันสมัย เต็มไปด้วร้านค้าแฟชั่น ส่วนโอโมเตะซันโดะก็เป็นแบรนด์สตรีทชั้นนำของโลก เพียงแค่ได้เดินเที่ยวก็สนุกแล้ว
-กินซ่า ย่านหรูหราผสมผสานประเพณีกับความทันสมัย มีทั้งร้านแบรนด์ดังระดับโลกและร้านอาหารหรูหรามากมาย
-โอไดบะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ติดทะเลซึ่งใครๆก็สามารถมาเพลิดเพลินได้ เชื่อมต่อกับใจกลางเมืองด้วยเรนโบว์บริดจ์ เป็นแหล่งคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ของโตเกียว
-ชินจูกุ,อิเคะบุคุโระ ชินจูกุเป็นแหล่งการค้าชั้นนำ มีโรงภาพยนต์ โรงละครและสถานบันเทิงต่างๆมากมาย ส่วนอิเคะบุคุโระก็เพรียบพร้อมด้วยสถานที่ทางวัฒนธรรม เช่นโรงศิลปะโตเกียว แต่เสน่ห์ของทั้งสองที่ก็คือการที่สามารถเที่ยวได้ 24ชั่วโมง และมีรูปแบบต่างกันไปตามช่วงเวลาและฤดูกาล
-อุเอโนะ,ยานากะ ย่านศิลปะที่ทำให้ระลึกถึงความหลัง ที่อุเอโนะก็จะมีพิพิธภัณฑ์แห่งชาติมากมาย ส่วนที่ยานากะเป็นรู้จักกันในเมืองที่ระลึก เพราะมีสิ่งปลูกสร้างไม้ที่มีอายุมากกว่าร้อยปีมากมาย
-อากิฮาบาระ ย่านที่มีเอกลักษณ์หลายรูปแบบ เป็นถนนแห่งสินค้าไอทีและเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำของโลก
-อาซากุสะ,เรียวโกคุ เป็นย่านที่ทำให้สัมผัสได้ถึงบรรยากาศสมัยเอโดะ เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และความน่าตื่นเต้น และยังมีค่ายฝึกซูโม่ซึ่งจะสามารถพบซูโม่ใส่กิโมโนไว้มวยผมเดินไปมาด้วย
-ย่านทามะ เป็นย่าประวัติศาสตร์และธรรมชาติอันสมบูรณ์ นั่งรถไฟจากโตเกียวเพียงแค่ 80นาทีก็จะได้พบกับธรรมชาติอันสงบ เป็นที่พักผ่อนทางใจได้ สามารถตั้งแคมป์ ปิ้งบาร์บีคิวและอาบน้ำแร่ได้ด้วยเช่นกัน
-เที่ยวในหมู่เกาะต่างๆของโตเกียว คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติที่สดใสบนเกาะรีสอร์ทบนมหาสมุทรแปซิฟิกได้
เป็นผู้นำแฟชั่นและเทคโนโลยีที่หลากหลาย มีสิ่งแปลกใหม่ สไตล์ใหม่ๆไม่ซ้ำอยุ่ตลอด และมีความสนุกกับสิ่งต่างๆเหล่านั้น นอกจากนี้ โตเกียวยังเป็นเมืองที่รวมความเก่าตั้งแต่สมัยเอโดะและความเป็นยุคใหม่ได้อย่างลงตัว และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2012 นี้จะมีการเปิดตัวหอกระจายสัญญาณวิทยุที่มีความสูงถึง 634 เมตร สูงเป็นอันดับสองของโลกมาแทนที่โตเกียวทาวเวอร์ มีจุดชมวิวสองจุด ที่แรกที่ชั้นความสูง 350 เมตรซึ่งสามารถมองเห็นโตเกียวได้รอบเมืองเลย และชั้นที่สองที่ความสูง 450 เมตรทำให้คุณได้รู้สึกเหมือนเดินอยุ่บนก้อนเมฆบนฟ้าเลยทีเดียว นอกจากสกายทรีเทาเวอร์แล้ว บริเวณรอบๆสกายทรีก็ยังมีที่เที่ยวอื่นๆอีกด้วย เช่น พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ท้องฟ้าจำลอง ช้อปปิ้งเซนเตอร์ ร้านอาหาร เป็นต้น
โตเกียวเป็นเมืองแห่งธุรกิจ เป็นแหล่งเศรษฐกิจของทั้งประเทศ และเป็น M I C E ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ M I C E คือ การเดินทางท่องเที่ยวพบปะผู้คนต่างถิ่น ต่างประเทศ ต่างวัฒนธรรม ต่างการค้า ต่างประเพณี ทำให้นักเดินทางต้องศึกษาค้นคว้าเรื่องราวต่างๆ ที่ต่างไป และอาจจะทำให้นักเดินทาง หรือผู้เข้าร่วมประชุมนั้นๆ ได้พบทัศนะคติใหม่ๆ พบความต้องการใหม่ๆ พบช่องทางในการค้าใหม่ๆ พบวิธีการค้าใหม่ๆ ที่ตัวเองสามารถนำมาปรับปรุง เปลี่ยนแปลงให้เข้ากับวัฒนธรรมของตัวเอง
M = Meeting การประชุม สัมมนาของบริษัท
I = Incentive การท่องเที่ยวแบบเป็นรางวัล
C = Conference / Convention การจัดประชุมใหญ่ การสัมมนาใหญ่ แบ่งออกเป็น Corporate Conference และ Association Conference
E = Exhibition การจัดแสดงสินค้าของบริษัทต่างๆ
และยังเป็นเมืองที่มีศูนย์การจัดประชุมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีโรงแรมที่หรูหราสำหรับแขกวีไอพีระดับโลกมาพักได้
ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเองก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน ที่ย่านโอไดบะเลย นอกจากจะมีแหล่งช้อปปิ้ง แหล่งบันเทิง และวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วมีศูนย์วิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก นักศึกษาต่างชาติมักเข้ามาศึกษาดูงานที่นี่กันเยอะแยะ และยังมีศูนย์เทคโนโลยีของโตโยต้าและพานาโซนิคด้วยเหมือนกัน และเมื่อพูดถึงโตเกียว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็เห็นจะเป็นเรื่องเสื้อผ้าและเรื่องราวของแฟชั่นใหม่ๆ ย่านที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็เห็นจะหนีไม่พ้นชิบุย่า ฮาราจูกุ โอโมเตะซันโดะ ที่คนไทยรู้จักกันดี ในปัจจุบันมีหญิงสาวที่แต่งตัวมีสไตล์ของตัวเอง ซึ่งเรียกกันว่า สาวแกล(Gal) ถ้าหากเป็นผู้ชายก็จะเรียกกันว่า หนุ่มแกลหรือแกลโอ(Gal-ou) การแต่งกายสไตล์เป็นที่สนใจแก่ชาวยุโรปให้เข้ามาซื้อสินค้าต่างๆจากญี่ปุ่นกันมากขึ้น
สุดท้ายเป็นเรื่องที่ใครหลายๆคนอาจจะชอบมากๆก็เป็นได้ นั่นคือเรื่องของอาหารญี่ปุ่นนั่นเอง โตเกียวมีแหล่งอาหารสด มีตลาดปลาสดที่ขายตั้งแต่เช้ามืด ดังนั้นถ้าคุณอยู่ในโตเกียว ไม่ต้องห่วงเรื่องความสดใหม่ของอาหารเลย รับรองได้ว่าซูชิที่คุณทานนั้น สด ใหม่ และสะอาดทุกวัน ซูชิที่เป็นที่รู้จักและนิยมทานกันในโตเกียวนั้นจะเป็นซูชิในแบบในสมัยเอโดะ เรียกกันว่า "นิกิริซูชิ" คือการใช้มือปั้นรวมข้าวกับหน้าปลาดิบไว้ด้วยกันนั่นเอง ซึ่งมีการสืบทอดการทำซูชิแบบนี้มานานกว่าสี่ร้อยปีแล้ว ถ้าใครได้มีโอกาสไปเที่ยวที่โตเกียวก็ต้องลองกินให้ได้เลยนะคะ
หรือถ้าใครไม่ค่อยเชี่ยวชาญเรื่องอาหารญี่ปุ่น ไม่รู้จะไปกินอะไร ที่ไหนดี คุณสามารถซื้อหนังสือไกด์บุ๊คสำหรับเรื่องอาหารได้เลย จะไม่แนะนำแค่ร้านอาหารญี่ปุ่นเท่านั้นนะ แต่จะแนะนำร้านอาหารจากทุกชาติที่มีอยุ่ในโตเกียวเลยล่ะ ใครที่ชอบชิมรสชาติอาหารประเภทต่างๆก็เตรียมตัวสนุกกับการลิ้มรสอาหารนานาชาติจากโตเกียวได้เลยค่ะ
ต่อมาก็อยากจะแนะนำร้านอิซากายะ หรือร้านเหล้าญี่ปุ่นสำหรับนักดื่มค่ะ ร้านเหล้าญี่ปุ่นแบบปกติก็จะกินอาหารไปพลางแล้วก็นั่งจิบเหล้าสังสรรค์กับเพื่อนๆ แต่เดี๋ยวนี้ร้านเหล้าที่ญี่ปุ่นพัฒนาขึ้น แบ่งเป็นตีมของแต่ละร้านด้วย บางร้านเป็นตีมผี มีผีออกมาเซิร์ฟ มีธูปเทียนประดับตกแต่งโต๊ะให้ หรือจะเป็นตีมนินจาก็มีนะคะ มีหลายแบบให้เลือกแล้วแต่ความต้องการของแต่ละความชอบค่ะ ส่วนค่าอาหารก็ถูกลงกว่าแต่ก่อนด้วย มีแบบบุปเฟ่ต์เหล้าด้วยค่ะ คนละ 3000-4000 เยน นับว่ากำลังพอดีๆสำหรับนักดื่มที่ชอบจัดหนักเลยค่ะ ทุกคนสามารถเลือกร้านที่เหมาะกับตัวเอง(เงินในกระเป๋าตัง)ได้แล้วแต่ความชอบเลยค่า
Tweet
Tokyo sky-tree official web-site