วันนี้เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องของขนมวากาชิ หรือขนมพื้นบ้านของญี่ปุ่น
ขนมชนิดนี้มีมากว่า 1,300 ปี มาแล้ว และเฟื่องฟูมาก ในช่วงศตวรรษที่ 17-19 หรือสมัยเอโดะ ขนมชนิดนี้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในพิธีชงชา ขนมวากาชินั้นมี ประวัติอันยาวนานพอๆกับชีวิตของผู้คนญี่ปุ่น วัตถุดิบในการทำขนมชนิดนี้ที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ ไส้ของขนม ที่ทำมาจาก ถั่ว และยังมี น้ำตาล, แป้ง ในการทำขนมชนิดนี้ต้องทำด้วยความพิถีพิถัน เชฟแต่ละคนก็จะมีอุปกรณ์ในการทำขนมเฉพาะของแต่ละคน และครั้งนี้เราได้เชฟ จากร้านที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น 3 ท่านมา เป็นผู้สาธิต ขนมต่างๆ คือ คุณโนริยูกิ เมียวจิน คุณเคย์ซึเกะ โยชิฮาชิ และ คุณ นาโอยะ โคอิซึมิ ได้ให้เกียรติมาสาธิต วิธีการทำขนมวากาชิ ให้เราได้ชมกัน
เชฟจากบริษัท มิตซึยะ ฮมโปะ เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในการทำขนมมายาวนาน ซาลาเปาน้ำผึ้งที่เป็น สัญลักษณ์ของเจ้านี้ ได้รับรางวัลเป็นการการันตีถึงความอร่อย ร้านนี้ได้รับคำชมว่าเป็นร้านที่ทำขนมไม่ต้องอบได้อร่อยและสวยงาม และคุณเมียวจินยังได้รับรางวัลกรังค์ปรีซ์จากการประกวดการทำขนมไม่อบ
จากร้าน โยชิฮาชิ ช่างทำขนมรุ่นที่สามของร้านนี้ ร้าน โยชิฮาชิ เป็นหนึ่งในสามของร้านขนมชื่อดังในเมืองคานาซาวะ ขนมของร้านนี้มักจะถูกนำไปใช้ในพิธีชงชา
จากร้าน ขงอุนโดะ ฮนเตง ที่มีกิจการมากว่า ศตวรรษ ร้านนี้ตั้งอยู่ที่เมือง อิชิคางะ ซึ่งขนมขึ้นชื่อของร้านนี้ ก็คือ โคอิน โมนากะ เป็นขนมแป้งกรอบไส้ถั่วแดงที่ร้านนี้เป็นผู้คิดค้นขึ้นมา เมื่อปี คศ.1945 และได้รับความนิยมอย่างมากทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น
ขนมวากาชิ ที่จะแนะนำมีด้วยกัน 4 ชนิด คือ
1 โจ นามะกาชิ
2. รัคคุกัง
3. โดรายากิ
4. โมนากะ
ตัวของขนมนั้นเกิดจากการแสดงออกทางอารมณ์ของเชฟ โดยใช้ขนมเป็นสื่อ โดยส่วนมาก เชฟจะทำออกมาเป็นลวดลาย ดอกไม้ต่างๆ เช่น ดอกซากุระ หรือ ดอกเบญจมาศ เป็นต้น การทำขนมเป็นดอกเบญจมาศนั้น ก็เพราะ ดอกเบญจมาศเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น การทำเป็นกลีบของดอกไม้ จะใช้กรรไกร บีบทีละกลีบๆ ดังนั้นจะต้องใช้ความเชี่ยวชาญและความละเอียดอ่อนอย่างมาก
เป็นขนมที่ทำมาจากน้ำตาล วาซันโบะ ที่หายากและแพงมาก นำน้ำตาลที่ได้ผสมแป้งลงไปแล้วนั้น มากดลงบนแป้นพิมพ์ โดยแป้นพิมพ์นั้น ก็เป็นสิ่งที่หายากอีกเหมือนกัน จะต้องมีการสั่งทำ และปัจจุบันมีช่างที่ทำแป้นพิมพ์นี้ไม่เกิน 10 คน
คือการจัดตกแต่งขนมให้สวยงาม มีมาตั้งแต่ คศ. 17-18 ศิลปะชนิดนี้เริ่มจากเมือง เกียวโต และกระจายต่อมาเรื่อยๆ
ขนมวากาชิ นั้น ควรจะทานคู่กับ ชา เพราะว่า ขนมชนิดนี้มีความหวาน ของน้ำตาล เป็นส่วนใหญ่ เมื่อเทียบกับขนมไทยและ วากาชิ ทานกับ ชา จะได้รสชาติที่กลมกล่อมมากกว่า ในการทำขนม วากาชิ รูปดอกไม้ หรือสี ต่างๆที่ใช้ทำนั้น คนญี่ปุ่นก็จะมีการเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดูกาลของญี่ปุ่น ที่มี 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ - สีชมพู ฤดูร้อน - สีเขียว ฤดูใบไม้ร่วง - สีส้ม ฤดูหนาว - สีขาว มาผสมผสานกับศิลปะการทำขนม ทำให้ขนมออกมา ดูน่ารับประทาน และยังสามารถสื่อให้เห็นความละเอียดละออ ของคนญี่ปุ่นในการสร้างสรรค์ขนมออกมา
และครั้งนี้เราได้เชฟ จากร้านที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น 3 ท่านมา เป็นผู้สาธิต ขนมต่างๆ คือ คุณโนริยูกิ เมียวจิน คุณเคย์ซึเกะ โยชิฮาชิ และ คุณ นาโอยะ โคอิซึมิ ได้ให้เกียรติมาสาธิต วิธีการทำขนมวากาชิ ให้เราได้ชมกัน ซึ่งศิลปะของขนมวากาชิ ที่เราสามารถสัมผัสได้ก็คือ ความใส่ใจของเชฟในการทำขนมชนิดนี้ด้วยความปราณีตและความตั้งใจ by New
วากาชิ เป็นส่วนหนึ่งของคนญี่ปุ่น หากรู้จักวากาชิก็สามารถเข้าใจวัฒนธรรมและทัศนคติของชาวญี่ปุ่นได้
Tweet
