Logo nipponnotsubo
ad head
header
หน้าแรก ความบันเทิง วัฒนธรรม ไลฟ์สไตล์ สังคม เทคโนโลยี แฟชั่น ธุรกิจ

N2 สอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น (4 ธ.ค.2554) --- ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่าข้อสอบค่อนข้างยากเอาการอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว


การสอบวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่นได้ผ่านพ้นไปแล้วเมื่อวันที่4ธ.ค.54ที่ผ่านมานั่นเอง ซึ่งปีนี้ก็ได้เข้าสอบในระดับN2จากที่มีทั้งหมด5ระดับ ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่าข้อสอบค่อนข้างยากเอาการอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ในการสอบจะแบ่งเป็นสองช่วง คือ ช่วงแรกจะเป็นการสอบวัดระดับความรู้ตัวภาษา-การอ่าน ในเวลา105นาที ส่วนในช่วงที่สองจะเป็นการสอบฟัง ในเวลา50นาที ทั้งหมดเป็นข้อสอบตัวเลือกไม่ข้อเขียนค่ะ

ก่อนอื่นจะขอพูดถึงเนื้อหาข้อสอบก่อนเลยค่ะ ในช่วงแรกนั้น หรือก็คือ การสอบวัดระดับความรู้ตัวภาษา-การอ่าน จะมีข้อสอบหลายแบบแตกต่างกันไป ข้อสอบพาร์ทแรกจะเป็นคำถามเกี่ยวกับคำศัพท์ เช่น การเปลี่ยนคันจิให้เป็นฮิรางานะ เปลี่ยนฮิรางานะให้เป็นคันจิ เลือกคำศัพท์(คันจิ)ให้เหมาะสมกับประโยค แล้วก็ข้อสอบเกี่ยวกับวิธีการใช้ศัพท์ โดยโจทย์จะให้คำศัพท์มาหนึ่งคำ แล้วให้เลือกว่าประโยคในคำตอบไหนนำคำศัพท์ที่อยู่ในโจทย์มาใช้ได้อย่างเหมาะสมที่สุด ถัดไปก็จะเป็นคำถามเกี่ยวกับไวยากรณ์อีกเล็กน้อย(น้อยจริงๆ- -) เช่น ในโจทย์จะเป็นคำถามที่มีไวยากรณ์ในระดับN2แล้วจะมีช่องว่างให้เติมคำตอบให้ถูกต้อง ซึ่งตัวเลือกอาจจะเป็นประโยคสั้นๆ รูปแบบไวยากรณ์ เป็นต้นค่ะ แล้วก็มีข้อสอบให้เรียงประโยค โดยจะมีประโยคมาให้ แล้วเว้นช่องไว้สี่ช่อง และในหนึ่งช่องในสี่ช่องนั้นจะมีสัญลักษณ์เป็นรูปดาว ซึ่งหมายความว่า โจทย์ต้องการจะถามเราว่าในช่องที่มีสัญลักษณ์นั้นต้องตอบข้อไหน ดังนั้น หากเราสามารถเรียงตัวเลือกทั้งสี่ข้อที่มีมาให้ได้อย่างถูกต้อง ก็จะตอบถูกนั่นเองค่ะ เป็นข้อสอบที่ต้องคิดวิเคราะห์หลายตลบเลยทีเดียวก็ว่าได้ และพาร์ทสุดท้ายในข้อสอบแรก ถือเป็นพาร์ทที่ต้องใช้เวลาเยอะมากที่สุด เพราะเป็นข้อสอบการอ่านและทำความเข้าใจ ในข้อสอบจะมีบทความมาให้อ่านซึ่งยาวมากกกกกกก และไม่ใช่แค่บทความเดียวด้วย มีประมาณ5-7บทความเลยถ้าจำไม่ผิดนะคะ และแต่ละบทความที่อ่านนั้น ก็จะมีคำถามบทความละ2-3ข้อ ซึ่งโดยส่วนมากโจทย์จะถามว่า ผู้เขียนต้องการจะบอกอะไร ในคำถามนี้หากอ่านบทความไม่เข้าใจก็ลำบากอยู่ไม่น้อย และบางบทความจะมีบางประโยคหรือบางคำที่ถูกขีดเส้นใต้ไว้ ซึ่งจะถูกนำมาตั้งคำถามว่า คำหรือประโยคที่ขีดเส้นใต้หมายถึงหรือสื่อถึงอะไร ดังนั้น อันนี้จะพอช่วยได้สำหรับคนที่อ่านบทความไม่เข้าใจ เพราะ สิ่งที่ถูกขีดเส้นใต้นั้น จะมีคำอธิบายอยู่ไม่ข้างหน้าก็ข้างหลังของประโยคหรือคำที่ถูกเส้นใต้นั้นๆค่ะ แต่แค่ในตัวเลือกจะได้ไม่บอกไว้ตรงกับในบทความเป๊ะ ซึ่งก็ต้องทำความเข้าใจตัวเลือกกับตัวบทความให้ดีด้วย

เมื่อจบช่วงแรกแล้ว ก็จะมีเวลาให้พักสักเล็กน้อย ก่อนจะเข้าสอบในช่วงสุดท้าย ซึ่งก็คือข้อสอบการฟัง ข้อสอบการฟังก็มีหลายแบบเช่นกัน แต่ทุกข้อจะไม่มีคำถามมาให้ ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องฟังให้ดีแล้วจำหรือจะจดบันทึกลงในตัวข้อสอบก็ได้(ห้ามเขียนลงในกระดาษคำตอบนะคะ) รูปแบบข้อสอบ เช่น จะมีแค่คำตอบมาให้เลือก4ข้อ โดยเขียนเป็นตัวอักษร บางข้อก็จะให้ตัวเลือกมาเป็นรูปภาพ และนอกจากนี้ก็จะมีข้อสอบที่ไม่ให้ทั้งคำถามและคำตอบด้วย ซึ่งมีอยู่หลายข้อเลยทีเดียว แน่นอนว่าจำเป็นที่จะต้องตั้งใจฟังและจับใจความให้ดี และก็จะมีข้อสอบที่ให้ฟังว่าถ้าพูดประโยคนี้มาแล้วต้องกลับว่าอย่างไร ซึ่งในข้อสอบรูปแบบนี้จะมีตัวเลือกให้ตอบแค่3ข้อ แต่แน่นอนว่าไม่มีคำถามและตัวเลือกมาให้เช่นเคย ต้องฟังเอาเท่านั้น

จบจากการพูดถึงเนื้อหาแล้ว ก็อยากจะขอพูดถึงหลักในการทำข้อสอบค่ะ การสอบวัดระดับความรู้ตัวภาษา-การอ่านในช่วงแรกที่ให้เวลา105นาที ซึ่งดูเหมือนจะให้เวลาเยอะ กับคำถาม75ข้อ แต่มีหลายคนที่ทำไม่ทัน แน่นอนว่าเป็นเพราะ ข้อสอบในพาร์ทการอ่านบทความยาวๆนั่นเอง ดังนั้น ในการทำข้อสอบช่วงแรกนั้น แค่อ่านเข้าใจอย่างเดียวคงไม่พอ แต่ต้องเร็วด้วย สมมติถ้ามีข้อไหนทำไม่ได้ไม่ว่าจะในพาร์ทไหนก็ขอให้ข้ามไปก่อนค่ะ ไปทำข้อที่ทำได้ก่อน เพราะถ้ามัวแต่จดจ้องอยู่ที่ข้อที่ทำไม่ได้จะทำให้เสียเวลามาก ส่วนในพาร์ทการอ่าน แนะนำว่าให้อ่านคำถามก่อนว่าโจทย์ถามว่าอะไร เพราะ ในบางทีเราก็สามารถตอบคำถามได้โดยไม่ต้องอ่านทั้งบทความก็ได้ แค่อ่านผ่านๆแสกนนิ่งเอาก็สามารถรู้คำตอบได้เช่นกัน เพราะบางคำตอบก็อยู๋ในประโยคสั้นๆเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องอ่านทั้งหมด ซึ่งทริคนี้จะใช้ได้ผลมากกับคำถามเกี่ยวกับคำหรือประโยคที่ขีดเส้นใต้ค่ะ แต่ในคำถามอื่นที่นอกเหนือจากที่ขีดเส้นใต้ ทริคอันนี้อาจใช้ไม่ได้ผลเท่าที่ควร บางทีต้องอ่านทั้งหมดเพื่อจะได้เข้าใจเนื้อหาได้ จึงไม่แปลกที่จะเป็นพาร์ทที่ทำให้ต้องใช้เวลาเยอะมากที่สุดและมีหลายคนที่พลาดในพาร์ทนี้ไป แต่มีข้อชี้แนะอีกนิดค่ะ ในพาร์ทการอ่านนี้ขอแนะนำให้ทำในส่วนสุดท้ายของพาร์ทนี้และท้ายสุดของข้อสอบช่วงแรกก่อนจะเป็นการดีที่สุด เป็นคำถามเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารค่ะ เช่น วิธีการใช้ห้องสมุด หรือการสมัคร เป็นต้น ซึ่งเป็นส่วนที่ง่ายที่สุดในพาร์ทการอ่านนี้ เนื้อหาไม่เยอะ คำถามไม่ซับซ้อน ไม่จำเป็นต้องอ่านทั้งหมด แต่แค่ควรอ่านโจทย์ให้ดี และอ่านให้ถูกจุด แค่นี้เราก็จะได้คะแนนในส่วนนี้ และทุ่นเวลาได้เยอะค่ะ เพราะ ใช้เวลาในการทำนิดเดียวเท่านั้น อ้อ แล้วก็ข้อสอบส่วนนี้จะมีคำถาม2ข้อค่ะ

ต่อไปมาว่ากันต่อที่ข้อสอบการฟัง หลักการไม่มีอะไรมาก แค่ต้องตั้งใจฟังให้ดี อย่าเผลอเหม่อเด็ดขาด เพราะอาจจะพลาดส่วนสำคัญไป แต่สำคัญที่สุดคือต้องดีตั้งแต่จุดสตาร์ทค่ะ คือ เมื่อเริ่มในการฟังปุ๊บต้องตั้งใจแต่แรกเลย ถ้าเราเผลอหลุดในช่วงตั้งแต่เริ่มทำข้อสอบแล้ว บอกได้เลยค่ะว่า จะพลาดยาวเลย คล้ายว่าสติหลุดอะไรประมาณนั้น กว่าจะตั้งสติได้ใหม่ก็ผ่านไปหลายข้อแล้ว ตรงนี้หลายคนเคยประสบพบเจอด้วยตัวเองค่ะ นอกจากนี้ ก็อย่าใช้เวลาในการเลือกคำตอบนานไป เพราะ เทปที่เปิดก็ไวไม่ใช่เล่นค่ะ แป๊บๆเดี๋ยวก็เปลี่ยนข้อแล้ว มัวแต่คิดจะตามไม่ทันได้นะคะ นอกจากนี้ ในส่วนที่ไม่มีทั้งโจทย์และคำตอบมาให้ ต้องตั้งใจเป็นพิเศษค่ะ เพราะ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับหูที่ฟังและสมองในการประมวลอย่างเดียว ถ้าฟังอะไรได้จะจดเมโมก็เป็นการดีค่ะ เพราะเมโมที่จดจะเป็นส่วนช่วยในการหาคำตอบให้เราได้ด้วย

สุดท้ายสำหรับการเตรียมตัวก่อนสอบ คิดว่าน่าจะเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆค่ะ ศึกษาไว้หลายๆส่วน โดยเฉพาะคำศัพท์และคันจิ สมควรที่จะต้องท่องเยอะๆเลย เพราะมีศัพท์ยากๆเยอะ ส่วนไวยากรณ์พูดตามตรงแล้วออกไม่เยอะค่ะ แค่นิดเดียวเอง แต่ถ้าถามว่าไม่อ่านได้มั้ย ได้ค่ะถ้ารู้อยู่แล้วนะ แต่ถ้าไม่รู้ก็อ่านไว้ดีกว่าค่ะถึงจะออกข้อสอบน้อย แต่ถ้าไม่รู้ไม่เข้าใจไวยากรณ์นั้นๆก็ทำข้อสอบไม่ได้ค่ะ ดังนั้น กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ นอกจากนี้ก็ควรทำข้อสอบเก่าให้มากๆด้วยค่ะ จะได้เป็นการฝึกคำศัพท์ ไวยากรณ์ไปในตัว แล้วก็จะได้รู้หลักข้อสอบด้วยว่ามีรูปแบบไหนบ้าง ฝึกการอ่านไว้มากๆก็ดีเหมือนกัน จะได้คุ้นเคยกับการอ่าน และจับจุดได้ดีด้วย ส่วนการฟังก็ฝึกฟังไว้เยอะๆจะดีกว่าค่ะ จะได้ชินกับสำเนียงและความเร็วในการพูดของคนญี่ปุ่น แล้วก็ความรู้ในเรื่องของบทสนทนาในชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่นก็สำคัญค่ะ เพราะ จะช่วยได้ในพาร์ทที่ให้เลือกบทสนทนาโต้ตอบกับอีกฝ่ายนั่นเอง

ท้ายสุดแนะนำว่าให้พกเสื้อกันหนาวเข้าห้องสอบ หรือใส่เสื้อผ้าหนาๆค่ะ ตรงนี้ก็สำคัญนะคะ ในบางห้องสอบที่อุณหภูมิเครื่องปรับอากาศเย็นมาก แล้วใส่เสื้อบางๆกางเกงขาสั้นหรือกระโปรง จะส่งผลต่อการทำข้อสอบมากค่ะ เพราะ เมื่ออากาศหนาวขึ้นมามากๆในจุดหนึ่ง สมาธิเราจะลดลงได้เลยนะคะ ดังนั้น ห้องสอบจะหนาวหรือไม่หนาว พกเสื้อกันหนาวเอาไว้ก่อนถือเป็นผลดีค่ะ By ねーん

INDEX เคล็ดลับสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นให้ผ่าน

หม้อความรู้เกี่ยวกับญี่ปุ่น nipponnotsubo にっぽんの壷เคล็ดลับสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นให้ผ่าน

右上大型広告
Custom Search
Copyright © 2011 Nipponnotsubo.Inc.
All Right Reserved.
nipponnotsubo@gmail.com
nipponnotsubo@hotmail.com