ที่ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงช่วงกลางเดือนกรกฎาคมจะมีฝนตกอยู่บ่อยครั้งแต่ก็ไม่ได้เรียกฤดูเช่นนี้ว่าฤดูฝนแต่จะเรียกว่า “ทซึยุ” ซึ่งมีความหมายว่า “ฝนที่ตกลงมาในหน้าเกาลัด” ดอกอะจิไซหรือดอกไฮเดรนเยียนี้เป็นดอกไม้ที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่นและเป็นตัวแทนของฤดูทซึยุซึ่งสำหรับชาวญี่ปุ่นแล้วดอกอะจิไซจะมีสีม่วงอมน้ำเงินและที่เปียกฝนเล็กน้อยนั้นให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในเทพนิยายและจะเห็นสวนของวัดหลายๆ แห่งในญึ่ปุ่นที่ปลูกต้นอะจิไซนี้ไว้เป็นจำนวนมาก
ดอกอะจิไซถูกเผยแพร่จากญี่ปุ่นไปสู่จีนและเมื่อประมาณปีพ.ศ.2332 ก็ได้ถูกส่งต่อจากจีนไปยุโรป และหลังจากนั้นก็ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์และเปลี่ยนชื่อเป็นไฮเดรนเยียส่งกลับมาสู่เอเชียอีกครั้งซึ่งในประเทศไทยดอกไฮเดรนเยียที่เห็นบานอยู่สะพรั่งนั้นก็ถูกส่งมาจากยุโรปเช่นกัน
ไฮเดรนเยียหรืออะจิไซเป็นไม้เมืองหนาวจึงชอบน้ำและไม่ค่อยชอบเเดดจึงให้อยู่กึ่งเเดดไม่ร้อนมากส่วนเรื่องดินต้องดูว่ากระถางใหญ่พอที่จะให้รากขยายหรือปล่าหรือไม่ถ้าเล็กเกินไปก็เปลี่ยนกระถาง ควรลงดินที่มีกราบมะพร้าวนะค่ะ เพราะกราบมะพร้าวก็เปรียบเหมือนปุ๋ยค่ะ แล้วก็ลดน้ำให้ตรงเวลา คอยดูแลเอาใจใส่ อาจิไซเป็นดอกไม้ที่มีพิษ แต่สามารถจับต้องได้ ดังนั้นจึงไม่มีการนำอาจิไซไปประกอบอาหารหรือประดับตามจานอาหารแม้แต่ในร้านอาหารก็ไม่มีการตกแต่งด้วยอาจิไซ แต่คนญี่ปุ่นอาจนำอาจิไซมาจัดตกแต่งตามบ้านหรือร้านค้าต่างๆ แทน
Tweet