จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่นทำให้เราเห็นช่องโหว่ของระบบไฟฟ้าของประเทศญี่ปุ่นได้อย่างชัดเจน ในขณะเดียวกันเราควรจะหันไปพึ่งพาพลังงานความร้อนมากขึ้น ในอนาคตข้างหน้าเราควรจะลดปริมาณการใช้พลังงานเชื้อเพลิงเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและพลังงานที่สำคัญให้คงนาน ดังนั้นเราจึงควรหันมาใช้พลังงานนิวเคลียร์และต้องให้ความสนใจอย่างจริงจังในการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงาน
จากการรายงานเกี่ยวกับพลังงานของทางรัฐบาล เราจะใช้พลังงานจากพลังงานความร้อนและพลังงานเชื้อเพลิง 10 - 17.3 เยน ,จากก๊าซธรรมชาติ(LNG)5.8 - 7.1 เยน และพลังงานปิโตรเลียม 5 - 6.5 เยนในการผลิตกระแสไฟฟ้า1กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง พลังงานนิวเคลียร์จะถูกกว่าพลังงานเชื้อเพลิงดังกล่าวข้างต้น เมื่อเทียบกันดูแล้วพลังงานนิวเคลียร์จะถูกที่สุดคือ 4.8 - 6.2 เยน และพลังงานน้ำอยู่ที่ 8.2 - 13.3 เยน อีกด้านหนึ่งคือพลังงานทางเลือก พลังงานแสงอาทิตย์ใช้ 46 เยน , พลังงานลมใช้ 10 - 14 เยนแต่ใช้ต้นทุนสูงมากในการติดตั้ง
แต่จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ เป็นอุบัติเหตุที่แสดงให้เห็นถึงสาเหตุหลักของค่าใช้จ่ายที่เสียหายในอุบัติครั้งนี้อย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น ทำให้เราสามารถคาดการณ์ถึงความเสี่ยงได้
อุบัติเหตุในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้นเป็นความไม่แน่นอนซึ่งเราไม่สามารถคำนวณความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้เลย ถ้ารวมเอาค่าความเสียหายจากอุบัติเหตุในครั้งนี้กับต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้าแล้วนั้น มันสูงเกินคาดเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้ เราต้องไม่คิดแค่ว่า "หน้าร้อนนี้จะมีชีวิตอยู่อย่างไร" แต่ต้องคิดไปถึงการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานเพื่อให้ใช้ได้ในระยะยาวต่างหากที่สำคัญที่สุด ศาสตราจารย์ชิโมมูระ มาซาชิ จาก Tohoku University จึงเสนอแนะเกี่ยวกับ "การศึกษาสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ"
จากการนำเสนอของศาสตราจารย์ชิโมมูระ จุลินทรีย์ในธรรมชาติใช้พลังงานไม่ถึง 1 ใน 10 ของการผลิตภาคอุตสาหกรรมในมนุษย์ในกิจกรรมการผลิตแบบเดียวกัน นั่นหมายความว่า จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพมากกว่ามนุษย์ถึงสิบเท่า
นักกีฬาว่ายน้ำที่สวมใส่ชุดว่ายน้ำที่มีโครงสร้างเลียนแบบโครงสร้างของผิวปลาฉลาม สามารถบันทึกสถิติโลกได้อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับที่ใช้ในเรือและเครื่องบิน การเร่งความเร็วเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์นั้นได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นการประหยัดพลังงาน
สัตว์ที่ใกล้เคียงกับแมลงสาบที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายมีโครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์โดยสามารถนำเอาไอน้ำที่มีเพียงเล็กน้อยในอากาศมารวมไว้รอบๆปากของมันได้ กลไกเช่นนี้ใช้ได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานแม้แต่น้อย แต่สามารถทำให้เกิดหยดน้ำและการระเหยได้
การศึกษาสิ่งก่อสร้างจากโครงสร้างของสิ่งมีชีวิตนี้เราเรียกว่า "biomimetic" ในปัจจุบันที่ประเทศอังกฤษและเยอรมันได้ให้ความสำคัญในการวิจัยเป็นอย่างมาก
แต่ศาสตราจารย์ชิโมมูระได้กล่าวว่า "การศึกษาในประเทศญี่ปุ่นได้รับความร่วมมือจากสาขาต่างๆเพียงเล็กน้อย ดังนั้นจึงทำให้เกิดความล่าช้าในการศึกษาค้นคว้า"
หลังจากนี้ประเทศญี่ปุ่นอาจจะเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการรับมือกับการเกิดแผ่นดินไหวก็เป็นได้ แม้ว่าตอนนี้การฟื้นฟูบ้านเมืองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่ว่าเราก็ต้องให้ความสำคัญในการพัฒนาวิทยาการต่างๆด้วยเช่นกัน