การปล่อยข้อมูลส่วนบุคคลของคนกว่าล้าน1คนทั่วโลกจากฐานข้อมูลของลูกค้าสำหรับเกมเล่นในบ้านของโซนี่ (เพลย์สเตชั่น3) ถูกล้วงข้อมูลโดยแฮกเกอร์มือดี ซึ่งโอกาสที่จะถูกขโมยหมายเลขบัตรเครดิตไปนั้นมีความเป็นไปได้สูง.ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะถูกกลุ่มแฮกเกอร์โจมตีในโลกไซเบอร์แต่บริษัทที่ให้ความสำคัญกับธุรกิจบนโลกไซเบอร์อย่างโซนี่ กลับเกิดปัญหาการรองรับช่องโหว่ของระบบและความผิดพลาดของระบบการจัดการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นและเป็นการชี้ให้เห็นว่าการรั่วไหลข้อมูลครั้งนี้มีความเกี่ยวเนื่องกัน. การเปิดเผยฐานข้อมูลโดย George Hotz แฮกเกอร์ชื่อดังนั้น ทางโซนี่ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา.
สำหรับทางบริษัทโซนี่นั้น เป็นธรรมดาที่จะต้องมีการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาไม่ให้โดนละเมิดลิขสิทธิ์ แต่สำหรับกลุ่มบุคคลต่างชาติที่เรียกตัวเองว่า (ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม)นั้น สิ่งนี้คือ"ข้อมูลได้เปล่า" ซึ่งทางแฮกเกอร์ได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนในการโจมตีทางเทคโนโลยีไปยังบริษัทโซนี่.
และจนถึงขณะนี้ยังไม่ระบุชื่อ บริษัทบัตรเครดิตของสหรัฐอเมริกาที่เป็นที่รู้จักกันสำหรับการโจมตีขนาดใหญ่ในระบอบประชาธิปไตยและของแต่ละรัฐบาลในการปราบปรามประเทศอาหรับ ปัญหาก็คือ ทั้งๆที่รับรู้การโจมตีจากทางโลกไซเบอร์แต่ไม่มีการจัดการกับช่องโหว่ที่เกิดขึ้น จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า "ระบบป้องกันหละหลวมค่อนข้างมาก"
ถ้าหากการสืบหาสาเหตุ ,มาตราการป้องกันและ การชดใช้ค่าเสียหาย ยังเป็นไปอย่างล่าช้า จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นระยะยาวแก่ทางบริษัทโซนี่.